ปราสาทหินพนมวัน
ตั้งอยู่ที่บ้านมะค่า ตำบลบ้านโพธิ์ อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา เดินทางไปตามถนนสายโคราช - ขอนแก่น ระยะทางประมาณ 15 กิโลเมตร จะมีทางแยกขวา่ตลาดค้าส่งโชคทวีไปตามทางลาดยางอีก 5 กิโลเมตร เป็นโบราณสถานสมัยขอม สร้างราวพุทธศตวรรษที่ 16 - 17 เพื่อเป็นเทวสถาน ต่อมาภายหลังดัดแปลงเป็นพุทธสถานตัวปราสาทหินผสมวัน สร้างเป็นปรางค์มีฉนวน(ทางเดิน) ติดต่อกันเป็นรูปสี่เหลี่ยมยาว 25.50 เมตร กว้าง 10.20 เมตร พระปรางค์มีประตูซุ้ม 3 ด้าน ซุ้มประตูด้านทิศเหนือประดิษฐานพระพุทธรูปยืนปางประธานอภัย 1 องค์ ลักษณะศิลปะแบบอยุธยา รอบปราสาทเป็นลานกว้างมีระเบียงคดก่อด้วยหินกว้าง 54 เมตร ยาว 63.30 เมตร ประกอบด้วยประตูทางเข้า 4 ทิศ ปราสาทแห่งนี้เป็นโบราณสถานที่น่าชม น่าศึกษาแห่งหนึ่ง
การเดินทางไม่ยากครับปราสาท หินพนมวัน ตั้งอยู่ที่บ้านมะค่า ตำบลโพธิ์ เดินทางไปตามถนนสายโคราช-ขอนแก่น ระยะทางประมาณ 20 กิโลเมตร ไปทาง อ.พิมายประมาณ 15 กิโลเมตร จะเจอป้ายบอกทางไป ปราสาทหินพนมวันเลยป้ายไปเล็กน้อย จะเจอไฟแดงและแยกขวาให้เลี้ยวตรงเข้าไปตามถนนนั้นเลยครับ(ออก จากจอหอจะมีทางแยกขวาไปตามทางราดยางอีก 5 กิโลเมตร
สำหรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาเที่ยวควรมาตอนเช้าๆ เพราะตอน สายจะร้อนมาก ตอนเย็นหลัง 18.00 น. ไม่แนะนำนะครับ เพราะที่นี่ไม่มีคนดูแล และสำหรับนักท่องเที่ยว ผู้หญิงนะครับ ควรมีเพื่อนมาด้วย จะสนุกมากกว่ามาคนเดียว ถ้าอยากมาคนเดียวจริงๆให้มาตอนเช้า และตอนกลางวัน ตอนเย็นไม่ควรนะครับ
- คำแนะนำพิเศษ
สำหรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาเที่ยวควรมาตอนเช้าๆ เพราะตอน สายจะร้อนมาก ตอนเย็นหลัง 18.00 น. ไม่แนะนำนะครับ เพราะที่นี่ไม่มีคนดูแล และสำหรับนักท่องเที่ยว ผู้หญิงนะครับ ควรมีเพื่อนมาด้วย จะสนุกมากกว่ามาคนเดียว ถ้าอยากมาคนเดียวจริงๆให้มาตอนเช้า และตอนกลางวัน ตอนเย็นไม่ควรนะครับ
ปราสาทหินพิมาย
อุทยานประวัติศาสตร์พิมาย ตั้งอยู่ในตัวอำเภอพิมาย ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของโคราช เป็นระยะทาง 60 กิโลเมตร ตามเส้นทางสายมิตรภาพ(โคราช - ขอนแก่น) อุทยานวัติศาสตร์พิมายครอบคลุมพื้นที่เมืองโบราณอันเป็นที่ตั้งของศาสนสถานที่ใหญ่โต และงดงามแห่งหนึ่ง คือ "ปราสาทหินพิมาย" เป็นแหล่งโบราณคดีที่ทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์สร้างขึ้นในราวปลายพุทธศตวรรษที่ 16 และมาต่อเติมอีกครั้งในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ราวต้นพุทธศตวรรษที่ 18 ซึ่งครั้งนั้นเมืองพิมายเป็นเมืองใหญ่ของขอมบนแผ่นดินที่ราบสูงปราสาทหินพิมาย หันหน้าไปทางทิศใต้อันเป็นที่ตั้งของเมืองหลวงแห่งอาณาจักรขอม แผนผังของปราสาทแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ ลานชั้นใน ซึ่งล้อมรอบด้วยระเบียงคดหรือกำแพงชั้นใน มีทางเดินกว้าง 2.35 เมตร เดินทะลุกันได้ตลอดทั้งสี่ด้าน หลังคามุงด้วยแผ่นหิน มีปรางค์ประธานสร้างด้วยหินทรายขาวตั้งอยู่กลางลานฐานสี่เหลี่ยมย่อมุมไม้สิบสอง กว้าง 18 เมตร ความยาวรวมทั้งมุขหน้า 32.50 เมตร หน้าบันและทับหลังส่วนใหญ่สลักเป็นภาพเล่าเรื่องรามายณะ(รามาวตาร) และกฤษณาวตาร หน้าบันด้านหน้าสลักเป็นภาพศิวนาฏราช ส่วนทับหลังของประตูห้องชั้นในขององค์ปรางค์สลักเป็นภาพทางคติพุทธศาสนานิกายมหายาน ด้านหน้าปรางค์ประธานเยื้องไปทางซ้าย และขวามีปรางค์องค์เล็กอีกสองหลัง องค์ทางซ้ายสร้างด้วยศิลาแลง เรียกว่า ปรางค์พรหมทัต มีฐานเป็นรุปสี่เหลี่ยมย่อมุม กว้าง 14.50 เมตร สูง 11.40 เมตร ปรางค์ทางด้านขวาสร้างด้วยหินทรายแดง เรียกว่า ปรางค์หินแดง กว้าง 11.40 เมตร สูง 15 เมตร ถัดจากระเบียงคดออกมาเป็นลานชั้นนอกล้อมรอบด้วยกำแพงอีกชั้นหนึ่ง ประกอบด้วยอาคารที่เรียกว่า บรรณาลัยสองหลัีง ตั้งคู่กันอยู่ทางด้านทิศตะวันตก มีสระน้ำอยู่ทั้งสี่มุม ทางเข้าด้านหน้ากำแพงชั้นนอกมีสะพานนาคราชและประติมากรรมรูปสิงห์ ถัดจากกำแพงชั้นนอกออกไปยังมีกำแพงเมืองล้อมรอบอีกชั้นหนึ่ง ปัจจุบันมีให้เห็นชัดเจนทางด้านทิศใต้ นอกจากนี้ยังมีโบราณสถานนอกเขตกำแพงเมืองทางด้านทิศใต้ ได้แก่ ท่านางสระผม กุฏิฤาษี และอโรคยาศาล
การแสดงมินิไลท์แอนด์ซาวด์พิมาย- พิธีต้อนรับและบายศรีสู่ขวัญของบริเวณอุทยานประวัติศาสตร์พิมาย ที่ว่าการอำเภอพิมาย และชมการแสดงแสง สี เสียง ขนาดเล็ก "วิมายะนาฏการ" ชุด "พุทธบูชา"
- มีบริการยุวมัคคุเทศก์นำชมอุทยานฯ
- รับประทานอาหารแบบพื้นเมือง
- ชมการแสดง แสง สี เสียง มินิไลท์แอนด์ซาวด์พิมาย
- มีบริการยุวมัคคุเทศก์นำชมอุทยานฯ
- รับประทานอาหารแบบพื้นเมือง
- ชมการแสดง แสง สี เสียง มินิไลท์แอนด์ซาวด์พิมาย
งานประเพณีแห่เทียนพิมาย- การประกวดต้นเทียนพรรษา
- การประกวดขบวนแห่เทียน
- การโชว์ขบวนต้นเทียน บริเวณลานเมรุพรหมทัต อ.พิมาย เทศบาลตำบลพิมาย
ประเพณีการแข่งเรือในช่วงเดือน พฤศจิกายน ของทุกปี
- การประกวดขบวนแห่เทียน
- การโชว์ขบวนต้นเทียน บริเวณลานเมรุพรหมทัต อ.พิมาย เทศบาลตำบลพิมาย
ประเพณีการแข่งเรือในช่วงเดือน พฤศจิกายน ของทุกปี
ปราสาทโนนกู่
เป็นปราสาทองค์ขนาดเล็กที่ตั้งอยู่ในเมืองโคราฆปุระ ก่อด้วยอิฐปนทราย สร้างเป็นปราสาทหลังเดี่ยวตั้งบนฐานสูง ด้านหน้ามีวิหารหันหน้าเข้าหาปราสาทประธานอันเป็นที่สถิตของพระศิวะมหาเทพ ตามคติความเชื่อของศาสนาฮินดูในราวพุทธศตวรรษที่ 16 สภาพปัจจุบันเหลือเพียงซากฐานอาคาร ปราสาทโนนกู่ ตั้งอยู่ที่บ้านกกกอก หมู่ 7 ตำบลโคราช อำเภอสูงเนิน ใช้ทางหลวงหมายเลข 2 ถนนมิตรภาพ กม.ที่ 221 - 222 เข้าอำเภอสูงเนินประมาณ 3 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวขวาเข้าทางวัดญาณโศภิตวนาราม(วัดป่าสูงเนิน) ไปอีกประมาณ 3 กิโลเมตร
การเดินทาง
ถ้า มาจาก กรุงเทพ ตามถนนมิตรภาพ ก่อนเข้าตัวเมืองโคราช 32 กม. จะถึงอำเภอ สูงเนินจากนั้นเลี้ยวเข้าตัวอำเภอ 3 กม.จะพบทางเลี้ยวขวาข้างวัด ญาณโศภิตวนาราม(วัดป่าสูงเนิน)เข้าไปอีก 3 กม.จะพบปราสาทโนนกู่อยู่ด้านช้ายมือ
ถ้า มาจาก กรุงเทพ ตามถนนมิตรภาพ ก่อนเข้าตัวเมืองโคราช 32 กม. จะถึงอำเภอ สูงเนินจากนั้นเลี้ยวเข้าตัวอำเภอ 3 กม.จะพบทางเลี้ยวขวาข้างวัด ญาณโศภิตวนาราม(วัดป่าสูงเนิน)เข้าไปอีก 3 กม.จะพบปราสาทโนนกู่อยู่ด้านช้ายมือ
- แนะนำพิเศษ
เป็นศาสนสถานแบบศิลปะขอมที่มีขนาดใหญ่อีกแห่งหนึ่งของโคราช ก่อด้วยอิฐปนทราย มีปราสาท 3 หลัง ตั้งอยู่บนฐานเดียวกัน หันหน้าไปทางทิศเหนือ ด้านนอกเป็นแนวคูน้ำขนานกับแนวคันดินเกือบรอบโบราณสถาน ด้านเหนือมีประตูหรือโคปุระเป็นทางเดินเชื่อมไปยังด้านใน เมื่อคราวกรมศิลปากรบูรณะ ได้พบทับหลังสลักลานก้านต่อดอกซึ่งเทียบได้กับลวดลายในศิลปะเขมรโบราณสมัยบันทายศรีราว ปี พ.ศ. 1510 - 1550 ปราสาทเมืองแขกตั้งอยู่ห่างจากปราสาทโนนกู่ไปประมาณ 500 เมตร ที่ตั้งอำเภอสูงเนินตั้งอยู่ที่บ้านกกกอก หมู่ที่ 7 ตำบลโคราช ห่างจากแยกวัดญาณโศภิตวนาราม 3.5 กิโลเมตร
การเดินทางถ้ามาจากกรุงเทพ ตามถนนมิตรภาพ ก่อนเข้าตัวเมืองโคราช 32 กม. จะถึงอำเภอสูงเนินจากนั้นเลี้ยวเข้าตัวอำเภอ 3 กิโลเมตรจะพบทางเลี้ยวขวาข้างวัด ญาณโศภิตวนาราม(วัดป่าสูงเนิน)เข้าไปอีก 3 กม.จะพบปราสาทโนนกู่อยู่ด้านช้ายมือแล้วตรงไปอีก ประมาณ 500เมตร ก็ถึงปราสาทเมืองแขก
การเดินทางมาเที่ยวโบราณสถาน ในเขตอำเภอสูงเนิน มีอากาศค่อนข้างร้อน ให้เตรียมร่ม หรือหมวกป้องกันแสงแดดมาด้วย สำหรับผู้หญิง ที่ต้องการเดินทางมาเที่ยว แนะนำให้มาตอนกลางวัน หรือไม่ก็ควรพาเพื่อนมาด้วยจะได้มีเพื่อนนะครับ
- แนะนำพิเศษ
การเดินทางมาเที่ยวโบราณสถาน ในเขตอำเภอสูงเนิน มีอากาศค่อนข้างร้อน ให้เตรียมร่ม หรือหมวกป้องกันแสงแดดมาด้วย สำหรับผู้หญิง ที่ต้องการเดินทางมาเที่ยว แนะนำให้มาตอนกลางวัน หรือไม่ก็ควรพาเพื่อนมาด้วยจะได้มีเพื่อนนะครับ
ที่แห่งนี้หรือคือจุดเริ่มต้น ของชาวโคราช ทำไมขาดการดูแลและเอาใจใส่อย่างนี้ตอนนี้เหลือแค่ซากหินทราย ต่อไปจะเหลืออะไรให้ดูละครับ เมืองเสมาเป็นเมือขนาดใหญ่ แผนผังเมืองเป็นรูปไข่กว้าง 1,400 เมตร ยาว 2,000 เมตร มีการค้นพบโบราณวัตถุในบริเวณนี้มากมาย ปัจจุบันเหลือให้เห็นเพียงเนินดินเป็นแนวยาวคล้ายกำแพง และพระนอนสมัยทวารวดี ที่วัดธรรมจักรเสมารามที่นี่คาดว่าจะเป็น เมืองโบราณสมัยทวารวดีชึ่งเป็น ชุมชนแรกของโคราช ชาวบ้านเรียก เมืองเสมาเมืองแห่งนี้รุ่งเรือง พุทธศตวรรษ ที่ 13-16 จากนั้นราวปลายพุทธศตวรรษที่ 16 ศูนย์กลางการปกครองเปลี่ยนไปอยู่ที่เมืองพิมาย เมืองโบราณแห่งนี้จึงถูกลดความสำคัญลง และทิ้งร้างไปใหนที่สุด
ที่ตั้งตั้งอยู่ที่ตำบลเสมา ห่างจากนครราชสีมาประมาณ 37 กิโลเมตร จากตลาดอำเภอสูงเนิน เดินทางข้ามลำตะคองและผ่านบ้านหินตั้งไปจนถึงเมืองเสมาเป็นระยะทาง 4 กิโลเมตร การเดินทางก่อนอื่นเราต้องขับรถเข้าสู่ อำเภอสูงเนินก่ิอน จากนั้นให้ตรงไปผ่านตลาด แล้วเลี้ยวขวาหน้าที่ทำการเทศบาลแล้วข้ามทางรถไฟไปอีก ประมาณ 5 กิโลเมตร ตรงไปเรื่อยตามป้าย ก่อนถึงวัดพระนอนหินทราย อยู่ขวามือนั้นละครับ อนาจักรเมืองเสมา
แนะนำที่จริงบริเวณนี้จะมีปราสาทโบราณสถานอยู่ทั้งหมด 4 แห่ง รวมทั้งแหล่งพระนอน หินทรายด้วย ควรไปให้ครบทุกที่
แนะนำที่จริงบริเวณนี้จะมีปราสาทโบราณสถานอยู่ทั้งหมด 4 แห่ง รวมทั้งแหล่งพระนอน หินทรายด้วย ควรไปให้ครบทุกที่
ปราสาทเมืองเก่า(ชมอโรคยาศาลพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 และบารายหรือบันนาราย หรือสระน้ำศักดิ์สิทธิ์) เป็นอโรคยาศาลหรือโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจำนวน 102 แห่งที่พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นในช่วง พ.ศ. 1724 - 1758 ทั่วราชอาณาจักรขอม สร้างจากศิลาแลงและหินทราย มีแผนผังสำเร็จรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าประกอบด้วยปรางค์ประธาน วิหาร กำแพงแก้วซุ้มประตู สระน้ำ ปัจจุบันเหลือเพียงซากกองหินปราสาทเมืองเก่า ตั้งอยู่ในวัดปราสาทเมืองเก่า บ้านเมืองเก่า หมู่ 1 ตำบลโคราช อำเภอสูงเนิน ใช้เส้นทางเดียวกับปราสาทโนนกู่ โดยอยู่ห่างจากปราสาทเมืองแขกประมาณ 1 กิโลเมตร
แหล่งท่องเที่ยวเมืองโคราช
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ มหาวีรวงศ์
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ มหาวีรวงศ์
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ มหาวีรวงศ์ เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ถือกำเนิดจากการรวบรวมโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ ของสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (อ้วน ติสโส) อดีตพระเถระสำคัญของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ขณะดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสวัดสุทธจินดา อ. เมือง จ. นครราชสีมา โดยพระองค์ได้สะสมโบราณศิลปวัตถุจากจังหวัดต่างๆ ซึ่งขณะนั้น ทรงมีอำนาจปกครองคณะสงฆ์อยู่แล้ว นำมาเก็บรักษาไว้ที่วัด
ต่อมา ด้วยความตระหนักถึงคุณค่าทางการศึกษาโบราณศิลปวัตถุเหล่านี้ ได้มีการมอบสิ่งของที่สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (อ้วน ติสโส) รวบรวมได้ให้กับกรมศิลปากร เพื่อเผยแพร่ให้ประชาชนผู้สนใจชม ในปี พ.ศ. 2497 กรมศิลปากรได้สร้างอาคารชั้นเดียวทรงไทยประยุกต์ขึ้น 1 หลัง ภายในพื้นที่ของวัดสุทธจินดา จัดตั้งพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติขึ้น ซึ่งนอกจากจะจัดแสดงของสมเด็จพระมหาวีรวงศ์รวบรวมไว้แต่เดิมแล้ว ยังจัดแสดงศิลปโบราณวัตถุที่ได้จากแหล่งโบราณคดี โบราณสถานในจังหวัดนครราชสีมา และจังหวัดใกล้เคียง รวมทั้งสิ่งของที่ประชาชนบริจาคให้เพิ่มเติมในภายหลังด้วย และตั้งชื่อพิพิธภัณฑสถานฯ ที่สร้างขึ้น เพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้ริเริ่มก่อตั้งว่า "พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ มหาวีรวงศ์"
ที่ตั้ง
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ มหาวีรวงศ์ ถนนราชดำเนิน ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา 30000 โทร.(044) 242958 สังกัดสำนักงานโบราณคดีและพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติที่ 9 นครราชสีมา สำนักโบราณคดีและพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กรมศิลปากร กระทรวงศึกษาธิการ
การบริการ- การเข้าชม อัตราค่าธรรมเนียมเข้าชม
ปีงบประมาณ 2543 เปิดทำการทุกวัน
ปีงบประมาณ 2544 ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2543 เป็นต้นไป
ถนนราชดำเนิน ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา 30000 โทร.(044) 242958
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ มหาวีรวงศ์ ถนนราชดำเนิน ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา 30000 โทร.(044) 242958 สังกัดสำนักงานโบราณคดีและพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติที่ 9 นครราชสีมา สำนักโบราณคดีและพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กรมศิลปากร กระทรวงศึกษาธิการ
การบริการ- การเข้าชม อัตราค่าธรรมเนียมเข้าชม
- ประชาชนชาวไทย คนละ 10 บาท
- ชาวต่างประเทศ คนละ 50 บาท
- นักเรียน นักศึกษาในเครื่องแบบ พระภิกษุ-สามเณร ไม่เสียค่าธรรมเนียมเข้าชม
ปีงบประมาณ 2543 เปิดทำการทุกวัน
ปีงบประมาณ 2544 ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2543 เป็นต้นไป
- เปิดทำการวันพุธ - วันอาทิตย์ เวลา 09.00 - 16.00 น.
- หยุดประจำสัปดาห์ วันจันทร์ วันอังคาร และวันหยุดนักขัตฤกษ์
ถนนราชดำเนิน ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา 30000 โทร.(044) 242958
ศาลหลักเมือง ตั้งอยู่ที่หัวมุมสี่แยกถนนจอมพล ตัดกับถนนประจักษ์ ใกล้กับวัดพระนารายณ์มหาราช ลักษณะเป็นศาลเจ้าแบบจีน ประดิษฐานเสาหลักเมืองนครราชสีมา เป็นที่สักการะบูชาของชาวไทยและจีน สร้างขึ้นในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ระหว่าง พ.ศ.2199-2231 ตัวศาลและเสาหลักเมืองทำด้วยไม้ ผนังศาลด้านทิศตะวันออกเป็นกระเบื้องดินเผาปั้นลวดลายนูนต่ำ เป็นเรื่องราวการสู้รบของท้าวสุรนารีและวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทยใน สมัยโบราณ
การเดินทางเริ่มต้นที่ถนนหลังย่าโมเลยครับ ถนนมจอมพล ตรงไปเลยครับประมาณ สองไฟแดงจะเห็นอยู่ด้านซ้ายมือนะครับตรงหัวมุม วัดพระนารายณ์มหาราช
การเดินทางเริ่มต้นที่ถนนหลังย่าโมเลยครับ ถนนมจอมพล ตรงไปเลยครับประมาณ สองไฟแดงจะเห็นอยู่ด้านซ้ายมือนะครับตรงหัวมุม วัดพระนารายณ์มหาราช
เป็นอนุสรณ์แด่วีรกรรมอันกล้าหาญของวีรสตรีไทย หรือย่าโม ซึ่งเป็นชื่อที่เรียกกันติดปากโดยทั่วไป สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2476 ตั้งอยู่กลางเมือง ชาวต่างถิ่นที่แวะมาเยือนและชาวเมืองโคราชนิยมมาสักการะและขอพรจากย่าโมอยู่ เสมอ อนุสาวรีย์หล่อด้วยทองแดงรมดำ สูง 1.85 เมตร หนัก 325 กิโลกรัม แต่งกายด้วยเครื่องยศพระราชทาน ในท่ายืน มือขวากุมดาบ ปลายดาบจรดพื้น มือซ้ายท้าวสะเอว หันหน้าไปทางทิศตะวันตกซึ่งเป็นที่ตั้งของกรุงเทพฯ ตั้งอยู่บนฐานไพทีสี่เหลี่ยมย่อมุมไม้สิบสองซึ่งบรรจุอัฐิของท่านท้าวสุ รนารีมีนามเดิมว่า คุณหญิงโม เป็นภรรยาปลัดเมืองนครราชสีมา เมื่อปี พ.ศ. 2369 เจ้าอนุวงศ์แห่งเวียงจันทน์ได้ยกทัพเข้ายึดเมืองโคราช คุณหญิงโมได้รวบรวมชาวบ้านเข้าสู้รบและต่อต้านกองทัพของเจ้าอนุวงศ์แห่ง เวียงจันทน์ไม่ให้ยกมาตีกรุงเทพฯได้เป็นผลสำเร็จ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สถาปนาคุณหญิงโมเป็นท้าวสุรนารี ประชาชนพร้อมใจกันจัดงานเฉลิมฉลองวันแห่งชัยชนะของท้าวสุรนารีขึ้นระหว่าง วันที่ 23 มีนาคม ถึงวันที่ 3 เมษายน เป็นประจำทุกปีเพื่อเป็นการระลึกถึงคุณความดีของท่าน
การเดินทางจากกรุงเทพฯ ผ่าน จังหวัะสระบุรี มาทาง จังหวัดนครราชสีมา เข้าตัวเมืองนครราชสีมา จากนั้นสังเกตุด้านขวามือของท่าน โดยจะมีป้ายบอกทาง ให้ท่านเลี้ยวขวา แล้วขับตรงไปประมาณ 800 เมตร ก็จะพบอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (อนุสาวรีย์ย่าโม) จะอยู่ทางด้านขวามือของท่าน
การเดินทางจากกรุงเทพฯ ผ่าน จังหวัะสระบุรี มาทาง จังหวัดนครราชสีมา เข้าตัวเมืองนครราชสีมา จากนั้นสังเกตุด้านขวามือของท่าน โดยจะมีป้ายบอกทาง ให้ท่านเลี้ยวขวา แล้วขับตรงไปประมาณ 800 เมตร ก็จะพบอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (อนุสาวรีย์ย่าโม) จะอยู่ทางด้านขวามือของท่าน